วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ซื้อแบต Lithium ต้องรู้อะไรบ้าง

ซื้อแบต Lithium ต้องรู้อะไรบ้าง

มาถึงตอนสุดท้ายแล้วครับ สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ
แบต Lithium มาใช้ในรถกอล์ฟของเรา เราต้องรู้อะไรบ้าง
ควรถามอะไรจากผู้ขายบ้างเพื่อให้คุ้มค่ากับสิ่งที่เราจ่ายไป
mr.rodgolf สรุปสิ่งสำคัญเพียง 4 อย่างดังนี้


1.ใช้แบต Lithium ขนาดกี่ Ah.
ตัวอย่างด้านบนเป็นขนาดแบต ที่มี Ah. ต่างกันเราควรเลือก
ขนาดให้เหมาะกับระยะทางวิ่งของรถกอล์ฟ ซึ่งรถกอล์ฟแต่
ละแบบใช้พลังงานไม่เท่ากัน ตัวอย่างด้านบนเป็นข้อมูลของ
รถกอล์ฟแบบ 2 ที่นั่ง หากเป็น 4 หรือ 6 ที่นั่งระยะทางวิ่ง
ก็จะน้อยลง หรือ ถ้าวิ่งในทางลาดชัน หรือ ออกตัวบ่อย ก็จะ
ยิ่งน้อยลงอีก ดังนั้นเราควรจะประเมินได้เองว่า เราควรใช้แบต
ขนาดเท่าใด เนื่องจากแบตแต่ละรุ่นราคาไม่เท่ากันครับ ยิ่ง
Ah. สูงขึ้นราคายิ่งแพงขึ้น

2.Discharge current @ กี่ C

จาก Spec ข้างต้น พบว่าแบต LifePO4 มีขนาด Discharge
current 0.3C ค่านี้ยิ่งมากยิ่งดี เช่น 0.5C ดีกว่า 0.3C แล้วมันดี
กว่ายังไง ค่านี้เป็นตัวบอกความสามารถในการจ่ายพลังงานของ
แบต LifePO4 ถ้ามากก็คือจ่ายกระแสได้มาก ในความรู้สึกของ
ผู้ใช้งานก็คือรถไม่อืดอัตราเร่งดี เมื่อเทียบกับรุ่นที่จ่ายได้น้อย
อีกประการหนึ่งค่า Dsicharge ยิ่งสูงราคาแบตยิ่งสูงตามไปด้วย
ดังนั้นต้องเปรียบเทียบครับ อย่าซื้อแบตค่า Discharge ต่ำใน
ราคาที่สูง
ค่า Discharge นี้บางผู้ผลิตไม่ได้บอกว่าโดยตรงเหมือนด้านบน
อาจจะบอกว่าดังนี้ครับ


แบตตัวนี้มีค่า 30Ah Discharge current 100A แสดงว่า
แบตมีค่า 100/30 = 3C ถือว่าเป็นแบตคุณภาพดีมากจ่าย
กระแสได้สูงถึง 3 เท่าของความจุ

3.โครงสร้างแบตเป็นแบบไหน แบตชนิด LifePO4
เป็นแบตที่เหมาะกับรถไฟฟ้า แต่อาจมีโครงสร้าง
ที่แตกต่างกัน โครงสร้างของแบตมี 3 แบบดังนี้ครับ
แบบทรงกระบอก Cylindrical นิยมใช้ใน Power tool เช่นสว่าน
ไร้สาย , เครื่องมือแพทย์ , คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค และ จักรยานไฟฟ้า
เนื่องจากจ่ายพลังงานได้น้อย หากนำมาใช้กับยานยนต์ไฟฟ้าต้อง
ใช้จำนวนมาก
แบบ Prismatic มีขนาดใหญ่ ความจุสูง 20-50Ah. บรรจุในตัวถังแบบ
อลูมิเนี่ยม นิยมใช้ในยานยนต์ไฟฟ้า
แบบ Pouch มีขนาดบางและน้ำหนักเบา บรรจุในถุงมีความ
สามารถจ่ายพลังงานต่อน้ำหนักได้สูง เหมาะกับเครื่องใช้ขนาด
เล็ก เช่นโทรศัพท์มือถือ มีข้อเสียคือเมื่อเสื่อมสภาพแล้วจะบวม
จากแบต 3 โครงสร้าง เราจะพบได้ว่าแบบ Prismatic มีความ
เหมาะสมกับรถกอล์ฟมากที่สุดครับ


4.เงื่อนใขการรับประกัน ข้อนี้เป็นสิ่งที่เราต้องถามจากผู้ขาย
ว่าเมื่อแบตเราไม่ทำงาน โดยที่เราใช้งานปรกติ และยังอยู่ใน
ระยะรับประกัน ผู้ขายจะทำอย่างไร เช่น ต้องขอนำกลับไป
ตรวจสอบก่อน ระยะเวลาตรวจสอบกี่วัน แล้วมีแบตทดแทนให้
เราใช้งานระหว่างตรวจสอบไหม หรือ เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
เหตุที่ต้องถามให้ชัดเจน เนื่องจากแบต LifePO4 ราคาสูง และ
อายุยาวนาน มันจะไม่คุ้มค่าเลยถ้า มันเสียโดยที่เราใช้มันไม่คุ้ม
และเราไม่สามารถแก้ใขอะไรได้
จากประสพการณ์ของ mr.rodgolf ที่ใช้แบต LifePO4 มาจำนวน
หนึ่งพบว่าเมื่อแบตเสีย ต้อง Claim กับผู้ขาย ถ้าผู้ขายไม่ใช่อยู่
ในธุรกิจแบต หรือ ธุรกิจรถกอล์ฟ Claim ยากครับต้องรอ เพราะ
เขาจะไม่มีแบตสำรองให้เรา เนื่องจากแบตมีราคาสูง และยิ่งการ
รับประกันยาวๆด้วยแล้ว อาจจะไม่มีสินค้ารุ่นนั้นเพื่อ Claim ก็ได้

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ สำคัญในการเลือกซื้อแบต Lithium
ยังมีส่วนปลีกย่อยที่ต้องพิจารณาด้วยเช่น อุณหภูมิในการใช้งาน
เนื่องจากบ้านเราเป็นเมืองร้อน ฤดูร้อนอุณหภูมิอาจขึ้นถึง 40 องศา
ต้องซื้อเครื่องชาร์จใหม่ด้วยไหม และ ชาร์จกี่ชั่วโมง จะเต็ม เก็บ
แบตเตอรี่โดยไม่ได้ชาร์จ ได้นานเท่าไร มีวิธีในการอ่านข้อมูลจาก
แบตไหม เช่น อ่านโดยมือถือผ่าน Bluetooth หรือ ต้องต่อกับคอม
มี app บนมือถือให้ลูกค้าด้วยไหม หากแบตหมดอายุหรือเสื่อม
ผู้ขายรับซื้อซากไหม
สรุปว่าเราต้องรู้ 4 ข้อ
1.แบตมีความจุขนาดกี่ Ah.
2.Discharge current ที่กี่ C หรือ กี่ A.
3.โครงสร้างแบต เป็นแบบไหน
4.เงื่อนใขการรับประกัน
ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายของเรื่องแบต Lithium ครับหากท่านใด
มีข้อมูลที่แตกต่างหรือข้อมูลของ mr.rodgolf ผิดพลาดก็แลก
เปลี่ยนกันได้นะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ข้อเสียของแบตเตอรี่ Lithium

ข้อเสียของแบตเตอรี่ Lithium

ตอนนี้เป็นตอนต่อเนื่องจากตอนแรกที่พูดถึงแต่ข้อดี
ข้อเสียก็มีนะครับ แต่ก่อนเล่าให้ฟังผมขอให้ทราบ
คุณสมบัติบางประการของแบต LifePO4 ก่อนครับ


  • ชาร์จเต็มแล้วต้องหยุด (ถ้าไม่หยุดจะเกิดความร้อนลุกไหม้ได้)
  • ไม่ควรใช้แบต LifePO4 จนหมด (ถ้าใช้หมดจะพังถาวร)
  • ไม่ควรใช้งานที่อุณหภูมิสูงกว่า 55 องศา


จากข้อจำกัดทั้ง 3 ข้อทำให้แบต LifePO4 ต้องมีตัวควบคุม
ให้ทำงานอยู่ในโซนปลอดภัย ตัวควบคุมนั้นคือ Battery
Management System หรือ BMS นั่นเอง เมื่อรับทราบ
คุณสมบัติแล้วผมขอเข้าเรื่องข้อเสียเลยนะครับ

1.ต้องการ BMS เมื่อเทียบกับแบตตะกั่ว ไม่ต้องมีอุปกรณ์ป้อง
กันอะไร ก็สามารถใช้งานได้ แล้ว BMS มันทำหน้าที่อะไรบ้าง
แยกเป็นข้อดังนี้ครับ

ป้องกันใช้แบตจนหมด (แบตจะได้ไม่พัง)
ป้องกันชาร์จเกิน เต็มตัด (แบตจะได้ไม่ลุกไหม้)
ตรวจจับความร้อนเกิดที่เกิดกับแบตเตอรี
ป้องกันการ Short circuit
Balace แบต กรณีอนุกรมกันเวลาชาร์จอาจ ชาร์จเต็มไม่
ไม่พร้อมกัน ถ้าตัวไหนเต็มก่อนก็จะร้อน ตัว Balance
เป็นตัว Bypass กระแสตัวที่เต็มก่อนให้เต็มพร้อมกัน
จะได้ไม่เกิดความร้อนกับแบตตัวนั้น
เก็บข้อมูลการชาร์จ และ ใช้งานของแบต
เชื่อมต่อกับตัวควบคุมรถ
หรือเชื่อมต่อกับ Bluetooth เพื่อแสดงข้อมูลและข้อผิดพลาด

ในตัว BMS มันจะทำงานตลอดเวลาที่ต่อกับแบตอยู่ ดังนั้นปัญหาเกิด
ตรงที่ว่า ถ้าBMSเสีย ก็จะเกิดอันตรายทันที จากประสพการณ์ของผม
พบว่า BMS มักจะเสียก่อนแบตเตอรี่ ถ้าเราเลือก BMS ที่ไม่น่าเชื่อถือ
เรื่องนี้ผู้ใช้ไม่สามารถเลือกได้ครับ เนื่องจากมันอยู่ภายในกล่องแบต
เห็นไหมครับว่า ถ้า BMS มันไม่ดี จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ทันที

2.น้ำหนักเบา รถกอล์ฟไฟฟ้าทุกคันถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักถ่วง
บริเวณกลางรถเป็น 100kg. แล้วถ้าใช้แบต LifePO4 ที่มีน้ำหนักน้อย
กว่ามากจะเกิดผลเสียในเรื่อง เสถียรภาพในการขับขี่รถที่เปลี่ยนไป
เนื่องจากรถเบาขึ้น ลองนึกดูครับ หากเรานั่งรถที่หนักรถจะนิ่งและ
เกาะถนน ถ้ารถเบากว่าก็ขึ้นอยู่กับช่วงล่าง แต่ช่วงล่างรถไฟฟ้า
เป็นชุดเดิมนะครับ ถึงแม้ความเร็วของรถไฟฟ้าจะไม่สูงมากก็มีผลครับ
อีกประการหนึ่งคือความนุ่มนวลเนื่องจากแหนบหรือโช๊คถูกตั้งมาที่
น้ำหนักขนาดนึ่ง เมื่อน้ำหนักรถไฟฟ้าลดลง เราจะรู้สึกเลยว่ารถมันแข็ง
หรือกระด้างขึ้นกว่าเดิม

3.ต้องการเครื่องชาร์จที่เหมาะสม เครื่องชาร์จเดิมที่ติดมากับรถอาจ
ไม่ปลอดภัยหรือไม่เหมาะสม จึงต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนของเครื่องชาร์จ
ที่เพิ่มขึ้น อีกประการเครื่องชาร์จจะเป็นรุ่นที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ซึ่ง
เมื่อเกิดความเสียหาย จะไม่นิยมซ่อมครับ ใช้วิธีเปลี่ยนตัวใหม่

4.ชาร์จด้วยกระแสไฟฟ้าที่สูงกว่า เมื่อเราต้องใช้เครื่องชาร์จที่มีกระแส
ที่สูงขึ้นและต่อเนื่องเป็นเวลานาน หากระบบไฟฟ้าเดิมใช้กับเครื่องชาร์จ
แบตตะกั่ว อาจต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้าว่าสามารถรองรับ กระแสไฟฟ้า
ที่สูงขึ้นและต่อเนื่อง เช่นสายไฟเครื่องชาร์จต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือ
มิเตอร์ไฟฟ้าต้องรองรับขนาดของเครื่องชาร์จด้วย

5.แก้ปัญหายาก แบตตะกั่วเราใช้พนักงานทั่วไป ก็สามารถบำรุงรักษา
แบตเตอรี่ได้ด้วยตัวเอง ในขณะที่แบต LifePO4 ไม่ต้องบำรุงรักษาก็จริง
แต่ถ้าเกิดปัญหา เราไม่สามารถดูได้ด้วยตา ต้องใช้ช่างและต้องมีเครื่อง
มือเท่านั้นถึงจะทราบปัญหา ดังนั้นต้นทุนในการดูแลหากเกิดปัญหาจะ
สูงกว่าแน่นอน

5.Claim ยาก นึกถึงแบตตะกั่วหากพบว่าแบตเสียบางลูก ผู้ขายสามารถ
Claim โดยการนำแบตเตอรี่ที่มีอายุใกล้กันเพียงลูกเดียวมาเปลี่ยนให้ได้เลย
แต่หากเป็น แบต LifePO4 ต้องเปลี่ยนยกชุด ต้นทุนในการ Claim สูงกว่า
กันอย่างมาก อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ขายแล้วครับว่า Claim ยังไง

6.ราคาสูง

ผมอยากให้มองในอีกมุมมองหนึ่ง แบตตะกั่วจ่าย 100 ใช้ได้ 50-70% ก็จริง
แต่แบต LifePO4 ราคาก็ไม่ถูกนะครับ ปรกติแล้วแบต LifePO4 ราคาจะสูง
กว่าแบตตะกั่วมากเป็นเท่าตัว จะมีแต่แบตที่ Ah. ขนาดเล็กที่ราคาใกล้เคียง
กับแบตตะกั่ว

จากที่เล่ามาทั้งหมดขอสรุปข้อเสียดังนี้ครับ
1.จุดอ่อนคือ BMS ที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่ทน
2.รถเบาแต่ไม่เกาะถนน และกระด้าง
3.ต้องซื้อเครื่องชาร์จเพิ่ม
4.ชาร์จกระแสไฟสูงขึ้น ระบบไฟฟ้าต้องรองรับ
5.แก้ปัญหาเบื้องต้นได้ยาก ต้องใช้ช่างและเครื่องมือ
6.Claimยากกว่าเนื่องจากต้นทุนสูง
7.ราคาสูง

ตอนสุดท้ายในเรื่องแบต Lithium ผมจะเล่าให้ฟังเรื่องวิธีการ
เลือกแบต Lithium ว่าต้องดูอะไรบ้าง หลังจากเราทราบข้อดี
และข้อเสียมาแล้ว โปรดติดตามนะครับ